วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Mont Saint-Michel แคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส

หลังจากไกด์ได้พักไปหลายวันแล้ว วันนี้ได้เวลาพาไปเที่ยวต่อ วันนี้เด็กหญิงลูกครึ่งจะพาไปชม Mont Saint-Michel ที่ชาวฝรั่งเศส ออกเสียงกันว่า มง แซง มีแชล . Mont Saint-Michel ที่เห็นในภาพข้างบนนี้ เป็นวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะในเขตแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส โดยสถานที่นี้ ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1979 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมติดอันดับ 3 ของฝรั่งเศส รองลงมาจากหอไอเฟล และพระราชวังแวร์ซายน์ ประวัติความเป็นมาของวิหารนี้ เขาเล่าว่า มีการสร้างวิหารนี้โดยนักบุญมีแชลที่ได้มาเข้าฝัน นักบุญโอแบร์ บิชอบ แห่งมาฟรองช์ ราวๆ คริสต์ศตวรรษที่ 8 จริงๆ นักบุญมีแชลมาเข้าฝันนักบุญโอแบร์ถึงสามครั้ง โดยครั้งที่หนึ่งนั้น นักบุญโอแบร์นึกว่าเป็นปิศาจมาเข้าฝัน จึงไม่ได้ทำตาม จนถึงครั้งที่สามที่นักบุญโอแบร์ ฝันว่า นักบุญมีแชลเอานิ้วมาจิ้มที่หัว(คงประมาณว่า… หนอยแน่ แกไม่เชื่อฉันเหรอ เหอๆ คนเขียนแปลใส่สีอีกแล้ว) พอตื่นเช้าขึ้นมาเจอรูที่ศรีษะเข้าไปหนึ่งรู เท่านั้นแหละ ท่านก็รีบไปทำตามความฝันที่นักบุญมีแชลสั่งให้สร้างวิหารนี้ทันที ตัวเกาะที่เห็นอยู่ข้างบนนี้ เกือบทั้งหมดเป็นหินแกรนิต เด็กหญิงและเพื่อนพ้องไม่ได้ขึ้นไปชม เห็นบอกว่า คุณครูใหญ่ตังค์หมด ไม่มี เอิ้กๆ ล้อเล่นๆ ค่ะ คือว่าจริงๆ ที่นี่ไม่ได้ อยู่ในตารางการทัศนศึกษา แต่บังเอิญว่า คุณครูใจดี เห็นว่าเป็นสถานที่สำคัญ ฮอตฮิต เลยพานักเรียนมาชมกันสักนิดนึง เอาแค่พอผ่านๆ ตา ดังนั้น ดิฉันเลยขออาสาพาขึ้นไปดูเอง เพราะเคยปีนหอคอยนี้ขึ้นไป เมื่อปีก่อน ตอนไปฮอลิเดย์เฮฮา กันมาแล้ว ตามมาชมกันเลยค่ะ วิหารแห่งนี้สร้างอยู่บนเกาะ เดินขึ้นไปก็จะพบทางเดินแคบๆ วนไปวนมา ตามข้างทางมีร้านขายของที่ระลึกเพียบเลย มีเรื่องสะเทือนขวัญกันเล็กน้อย ด้วยว่าอาหมวยที่เห็นอยู่ในรูป มันเป็นใครก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพอเดี๊ยนชักภาพ แฟลชแวบออกมา เธอก็หันมาโช้งเช้งใส่เดี๊ยนซะงั้น แถมทำหน้างอใส่ เดี๊ยนก็ฟังมันไม่รู้เรื่องหรอก แต่อีลุงบอกว่า สงสัยเขาด่าว่าเธอเป็นปาปารัสซี่ ถ่ายรูปเขาไปขายมั้ง สรุปจนวันนี้ ก็ยังไม่รู้ว่า อาหมวยอีด่าอะไร เดี๊ยนหรือเปล่า เอิ้กๆ ไม่เป็นไร ช่างอาม่ามันเหอะเนอะ แต่ไม่ว่าจะค้าขาย หาเงินเข้ากระเป๋ากันอย่างไร วิหารนี้ก็ยังคงดำรงการเป็นศาสนสถานอยู่ด้วยเช่นกัน เพราะว่ายังมีนักบวช เบเนดิค พำนักอาศัยอยู่ในที่นี้ด้วย สิ่งก่อสร้างด้านบนนั้น ส่วนใหญ่เป็นบรรดาป้อมและกำแพง ที่โอบล้อมวิหารแห่งนี้โดยรอบ เพื่อเป็นปราการป้องกัน สึนามิ เอ๊ย กระแสน้ำที่ขึ้นๆ ลงๆ ตามธรรมชาติ จะเห็นได้ว่า เขาตัดถนนหนทางเข้ามาถึงเกาะ เพื่อทำให้การเดินทางเข้ามาชมสถานที่แห่งนี้ ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้น นักท่องเที่ยว จึงหลั่งไหลกันเข้ามาเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งนี้กันอย่างมากมาย จากด้านบนมองลงมา ก็ยังเป็นวิวทะเลตอนน้ำลง เสียดายที่ เราไม่ได้อยู่รอตอนน้ำขึ้น เดาว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะงดงาม มากขึ้นเมื่อน้ำทะเลขึ้นมา โอบล้อมวิหารบนเกาะไว้ วันที่เราไปเยี่ยมเยือน เขาประกาศว่าน้ำจะขึ้นตอน บ่ายสามครึ่งเราจึงไม่ได้อยู่รอ เสียดายเหมือนกัน ทัวร์ฝรั่งเศส กับสองแม่ลูกนี้ ยังไม่จบง่ายๆ ค่ะ คราวหน้าพาไปเที่ยวกันต่อ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ ปัจฉิมฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Présentation