วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

10 อันดับ เมืองค่าครองชีพถูกที่สุดใน USA งานนี้ใครอยากไปห้ามพลาด !!

หลายๆคนคงอยากจะไปเรียนต่อ ไปใช้ชีวิตในประเทศที่น่าสนใจอย่างสหรัฐอเมริกา แต่ประสบปัญหาเรื่องงบประมาณมีไม่พอ ซึ่งเรื่องเหล่านี้อาจจะแก้ปัญหาได้ถ้าเราได้ลองมาดูบทความนี้กันเลยครับ
จากการจัดอันดับด้วย Cost of Living Index (มาตรฐานคือ 100) เปิดเผยรายชื่อ 10 อันดับเมืองที่ค่าครองชีพถูกสุดในสหรัฐอเมริกา งานนี้ใครที่อยากจะไปแต่งบน้อยพลาดไม่ได้เลยล่ะ….

top-10-cheapest-city-us
อันดับ 10 Ashland, Ohio
Cost of Living Index 87.6
เมืองนี้ได้ชื่อเล่นว่า เมืองหลวงแห่งผู้คนจิตใจดี ซึ่งอาจจะเป็นเพราะค่าครองชีพถูกอันดับต้นๆในประเทศ คนจึงไม่ต้องดิ้นรนมากนัก และมีเวลาให้แก่กันมากขึ้น

top-10-cheapest-city-us2
อันดับ 9 Pueblo, Colorado
Cost of Living Index 87.1
เมืองแห่งนี้มีประชากรราวๆ 100,000 คน อยู่อย่างสงบแถบแม่น้ำอาคานซาส ความสบายและความน่าอยู่ ถึงกับเคยติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา จากสถาบันหลายแห่งด้วย

top-10-cheapest-city-us3
อันดับ 8 Muskogee, Oklahoma
Cost of Living Index 86.9
ถูกจัดอันดับค่าครองชีพต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศราวๆ 13% ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าอยู่แถมการใช้ชีวิตยังไม่แพงอีกแห่งหนึ่ง

top-10-cheapest-city-us4
อันดับ 7 Wichita Falls, Texas
Cost of Living Index 86.4
เมืองนี้มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับที่ 30 ในรัฐเท็กซัส สภาพไม่อึดอัดหนาแน่นจนเกินไป แถมค่าครองชีพก็ยังไม่แพงมากนักด้วย

top-10-cheapest-city-us5
อันดับ 6 Fayetteville, Arkansas
Cost of Living Index 86
เป็นเมืองเดียวจากรัฐอาร์คานซาส ที่ติดเข้ามาในการจัดอันดับครั้งนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยประจำรัฐ University of Arkansas ก็ตั้งอยู่ที่นี่ แถมยังมีทุนการศึกษาให้นักศึกษาต่างชาติอีกมากพอสมควร

top-10-cheapest-city-us6อันดับ 5 Memphis, Tennessee
Cost of Living Index 86
ถ้านับจากปีก่อน เมืองนี้มีค่าครองชีพสูงขึ้นถึง 10% ถือว่าก้าวกระโดดพอสมควร แต่ก็ยังคงติดอยู่ในท็อปเทนอยู่ดี เนื่องจากยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมากถึง 14%

top-10-cheapest-city-us7
อันดับ 4 Ardmore, Oklahoma
Cost of Living Index 85.9
เมืองที่ตั้งอยู่ราวๆ 48 กิโลเมตรจากชายแดนระหว่างรัฐโอคลาโฮม่า และรัฐเท็กซัส มีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 35,000 คน ถือว่าเป็นเมืองเล็กที่น่าสนใจมากๆอีกหนึ่งเมือง

top-10-cheapest-city-us8
อันดับ 3 Norman, Oklahoma
Cost of Living Index 85.6
มาถึงสามอันดับแรกกันแล้ว เมืองแห่งนี้นอกจากจะมีค่าครองชีพแบบถูกแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยของรัฐ University of Oklahoma ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1895 อีกด้วย

top-10-cheapest-city-us9
อันดับ 2 McAllen, Texas
Cost of Living Index 85.6
เมืองนี้จัดว่าเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูกมากๆเทียบกับเมืองอื่น แต่การเติบโตของเมืองก็เร็วเช่นกัน รายงานในช่วง 10 ปีหลังสุดระบุว่ามีการเติบโตเกือบ 40% ติดอันดับ 7 ของเมืองที่โตเร็วสุดในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

top-10-cheapest-city-us10
อันดับ 1 Harlingen, Texas
Cost of Living Index 81.8
และแล้วเมือง Harlingen ก็คว้าอันดับหนึ่งติดต่อกันสามปีซ้อม เรียกว่าทิ้งห่างอันดับอื่นๆพอสมควร ซึ่งมีค่าครองชีพถูกกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศมากถึง 20% กันเลยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Présentation